วันนั้นหนูเรียนอยู่ ม.3 อายุก็คงราวๆ 15 ปี ย่าง 16 ปี
กำลังโตเป็นสาวแรกรุ่นหน้าตาดี
ผิวขาวนวลออกชมพูระเรื่อคิกขุน่ารักน่าชังตามประสาวัยแรกสาว และ
รูปร่างหนูก็ดูไม่เด็ก และ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มาก (แต่ก็มีสัญลักษณ์
ที่สร้างแรงดึงดูดเพศตรงข้ามให้มีความสนใจ และ มีอารมณ์สารพัด
อย่างอยากทำโน่นทำนี่กับหนูต่างๆ นานากับหนูมากทีเดียว)
ในเทอมปลายช่วงสอบไล่ ก่อนปิดเทอมใหญ่หลังจากการสอบปลายภาคในวันสุดท้าย
ตามที่หนูได้พูดในตอนต้น หนูและเพื่อนๆ
ได้ลงขันกันจัดงานฉลองการสอบปลายภาคและการจบช่วงมัธยมต้นกัน
ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเรียน ตามโรงเรียนและสาขาวิชาที่แต่ละคนถนัด
วัน
นั้นพอเลิกจากโรงเรียน
ก็ย้ายไปจัดงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันมาก ในห้องคนหนึ่ง
คือบ้านน้องเล็ก (น้องเล็ก
คนนี้แหละค่ะภายหลังได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหนู
โดยที่เราทั้งสองไม่ตั้งใจ มาดเขาจะออกทอมบอยหน่อยหนึ่งในสายตาคนอื่น
แต่ไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะหนูรู้เนื่องจากคบกันมานานเขาเป็นคนขี้เล่นแก่นๆ
สนุกสนานเฮฮาใน กลุ่มเพื่อนๆ มากกว่า)
ซึ่งทุกคนก็ไปโดยไม่ได้เปลี่ยนชุดนักเรียนกันสักคน โดยบ้านน้องเล็กอยู่ที่
จ.สมุทรปราการ
มีพื้นที่กว้างขวางเกือบๆ 1
ไร่เห็นจะได้และพอดีวันนั้นคุณพ่อคุณแม่น้องเล็กไม่อยู่
ไปธุระต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็อีกสองสามวัน
จังหวะเลยมีโอกาสกันพวกเราก็เฮฮากันไป
โดยได้มีเพื่อนผู้ชายต่างโรงเรียนที่สนิท และ
รู้จักกันมาร่วมด้วยซึ่งก็รวมเพื่อนชายที่สนิทหนูที่ชื่อ เอก ด้วย
(สนิทมากแต่ไม่ใช่แฟน โดยเพื่อนๆ
พยายามยุหนูกับเขาให้เป็นแฟนกันแต่หนูสงวนท่าทีอยู่ ไม่เอาด้วยและอีกอย่าง
ก็ยังรู้สึกว่าหนูยังเด็กอยู่ยังไม่ควรจะเรียนรู้
เรื่องพวกนี้ซึ่งคุณพ่อก็สอนตลอดเวลา) พวกเราก็จัดหาหาเหล้าเบียร์มาดื่ม
ซื้ออาหารมาทำรับประทานกันเอง ตามประสาวัยรุ่นส่วนใหญ่
พวกผู้หญิงก็นั่งดื่มน้ำหวานและไวน์ผลไม้กัน
บางคนก็เข้าครัวไปสาระวนกับกับแกล้ม และ กับข้าวในครัว
หนูเองไม่ชำนาญเรื่องเข้าครัว เลยมานั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ
ในวงกับพวกเพื่อนผู้ชาย
ตอนแรกๆหนูก็ดื่มแค่น้ำหวานเพราะไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แต่เพื่อนๆ
คอยยุให้หนูลองดูบ้างพูดอย่างเดียวไม่พอพร้อมกับยื่นแก้วไวน์มาให้
หนูก็รับมาดื่มหนูจำไม่ได้ว่าหนูได้ดื่มเข้าไปมากแค่ไหน แต่ไม่นาน
เท่าไหร่หนูก็รู้สึกมึนมาก
จึงขอตัวออกไปยืนรับลมที่หน้าบ้านของบ้านน้องเล็กคนเดียว
ขณะที่หนูกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้นไม่ทัน ระวังตัว
เอกแอบมาทางด้านหลังของหนูโดยไม่ส่งเสียง แล้วเขาเข้ามาสวมกอดด้านหลัง
หนูตกใจสะบัดให้หลุดจากแขนของเขา และ
ได้ต่อว่าเอกไปหลายคำและเอกเขาก็ขอโทษหนูเป็นการใหญ่
และสัญญาว่าจะไม่ทำอีกหนูก็ยืนร้องให้อยู่ที่ตรงนั้น จนเพื่อนๆ
ได้ยินเสียงหนูก็ ออกมาดูแล้วร้องถามหนูว่า
"เต่าเป็นอะไร" เอกเขาไม่พูดเงยหน้ามองหน้าหนูสักพัก หนูจึงตอบเพื่อนไปว่า
"ไม่มีอะไรพอดีมีอะไรบินผ่านหน้าไปเลยตกใจเท่านั้นพอดีเอก เขาเดินมา" แต่เพื่อนๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นใจให้เอกร้องแซวกับมาว่า
"ไอ้
เอกมึงอย่าไปรังแกเต่าเค้านะเว้ย ทำอะไรอายฟ้าดินมั่ง" หนูก็ไม่ได้คิดอะไร
พออยู่กันตามลำพังสองคนเอกเข้าก็เริ่มต้นอธิบายเป็นการใหญ่
เขาชักเหตุผลจนหนูอ่อนใจยกโทษให้เขา จึงชวนหนูเดินรอบๆบ้านน้องเล็ก
เพื่อรับลมจนเดินมาที่มานั่งหินอ่อนข้างบ้านอีกด้านหนึ่ง
ซึ่งบริเวณบ้านตรงด้านนี้เงียบสงัดเพราะเพื่อนๆ
เฮฮากันอยู่อีกด้านหนึ่งของบ้าน เอกเขาก็ชวนหนูนั่งคุยกันที่ม้านั่ง
โดยหนูนั่งอยู่ด้านซ้ายมือของเขา ตอนแรกก็ห่างกันเป็นเมตร
คุยกันไปคุยกันมาสักพักเอกก็เริ่มเขยิบตัวเข้ามา จนเกือบประชิดตัวหนู
เอกเขาได้พูดกับหนูหลายเรื่อง โดยเขาระบายความรู้สึกต่างๆ
ที่มีต่อหนูและเขาได้สารภาพในเวลานั้นว่าเขารักหนู
อยากให้หนูคบกับเขาไปนานๆ หนูก็อายจนหน้าแดง
เพราะในชีวิตไม่เคยมีผู้ชายมาขอสารภาพรัก และ ขอความรักอย่างนี้
หนู
ก็บอกเอกเขาว่าเรายังเด็กอยู่ทั้งสองคน
อย่าคิดเรื่องนี้เลย เป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว
หนูก็ถามเขาเชิงสัพยอกว่าเอกเมาหรือเปล่าที่พูดออกมาอย่างนี้
แต่เอกเขายืนยันว่าถึงจะเมาบ้าง
แต่เขามีสติที่จะพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดกับหนู
พอเขาพูดอย่างนั้นหนูเลยไม่ได้พูดอะไรนั่งเงียบๆ
เฉยสักพักเอกก็เขยิบมาใกล้หนูมากขึ้น เขานำมือสองข้างเข้าโอบกอดหนู
โดยในตอนแรกหนูก็ดูขัดขืนแต่มันให้ความรู้สึกที่ประหลาดยังไงก็ไม่รู้
จึงปล่อยให้เขาทำอย่างนั้น มือซ้ายเอกโอบอยู่ที่ไหล่หนูแต่เขา
ละมือขวามาเชยคางหนูให้หนูหันหน้ามาทางเขา
พอหนูหันหน้ามาทางเขาเท่านั้นแหละ
ไม่มีสัญญาญบอกล่วงหน้าเอกก้มลงมาจูบที่ปากหนูทันที
หนูตกใจแต่ก็ปล่อยให้เขาทำ แต่ดูเหมือนว่าเอกเขาจะจูบไม่เป็นเก้ๆ กังๆ
คิดว่าไปจำตามอย่างหนังมา
(เหตุผลนี้หนูเปรียบเทียบกับตอนที่คุณพ่อท่าน
จูบหนูตอนที่หนูมีความสัมพันธ์กับท่านแล้ว
เพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการทำของเอก และ
คุณพ่อต่างกันอย่างมากคุณพ่อท่านมืออาชีพแล้วค่ะ) หนูได้แต่ครางในลำคอฮือๆ
"บอก
เอกว่าอย่าทำอย่างนี้มันไม่เหมาะ เรายังเด็กอยู่นะ" แต่เสียงหนูอาจจะเบามาก
จนเอกไม่ได้ยินหรือเขาได้ยิน แต่ไม่สนใจคำห้ามปรามของหนูก็ไม่รู้
เอกทำได้สักพัก
มือขวาเขาที่เดิมเคยเชยคางหนูเชิดไว้เพื่อที่เขาจะจูบหนูก็เลื่อนเปลี่ยนไป
จุดอื่นบนตัวหนู เช่น ลำตัวของหนู เอกมาลูบไล้ที่หน้าอกหนูอยู่ที่ภายนอก
โดยที่เอกพยายามที่จะปลดเสื้อกระดุมนักเรียนหนูออก
เพื่อที่จะล้วงเข้าไปภายใน เพื่อสัมผัสหน้าอกหนูซึ่งกำลังเบ่งบาน
หนูได้ยกมือมาผลักใสมือเอกออกไป แต่เอกก็ยังซุกซนอีก
เมื่อหนูไม่ยอมให้เขาจับที่หน้าอก เอกก็เปลี่ยนเป้าหมายของเขา
โดยเอกได้เลื่อนมือลงมาลูบไล้ที่หัวเข่าหนู ผ่านมาทางชายกระโปรงนักเรียน
และ เลื่อนเข้าไปยังต้นขาอ่อนของหนู
ทำให้หนูรู้สึกสยิวดีขนไรหนูลุกชันไปทั่วตัวซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก
ตรง
นี้หนูไม่ได้ห้ามเอก เขาทำอยู่สักพักมือเขาก็จู่โจมเข้าไปหาจิ๋มของ
หนูทันที หนูรู้ตัวก็หนีบขาไว้ไม่ให้เอกล้วงเข้าไปถึงข้างใน
แต่ทำได้สักพักก็ทนต่อสิ่งที่เอกเขาปลุกเร้าไม่ได้ หนูก็ค่อยๆ
คลายขาที่หนีบไว้ออก โอกาสนี้เอกได้ใช้มือขวาลูบคลำที่จิ๋มของหนูจนสักพัก
หนูเองรู้สึกมีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมามากจากช่องของหนู
จนกางเกงในหนูเปียกแฉะไปหมด หนูคิดว่าเอกก็คงรู้เพราะเขาสัมผัสกับมือตนเอง
เอกทำแบบนั้นกับหนู โดยที่เราสองคนไม่มีเสียงสนทนากันเลย
คงเป็นเพราะตกอยู่ในอารมณ์ของความต้องการทางธรรมชาติเองมากกว่า
ที่จะเกิดจากความรักที่แท้จริง
ระหว่างนั้นเอกได้เลื่อนตัวเองลงไปโดยให้ศรีษะ ของเขาตรงกับจิ๋มของหนูพอดี
เขาทำท่าจะมุดกระโปรงนักเรียนหนูเข้าไปภายในตอนนั้นหนูไม่รู้ว่าเอกจะทำอะไร
ต่อ แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรต่อไปสักพัก
ก็มีเสียงจุดประทัดฉลองดังขึ้นมาจากทางซีกหนึ่งของบ้าน และ
เราได้ยินเสียงเพื่อนๆตะโกนตามหลังมา
"ไอ้เอกกับเต่า
พอได้แล้วมาสนุกทางนี้ดีกว่า" เท่านั้นแหละหนู และ
เอกแยกออกจากกันทันทีหนูจัดสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เรียบร้อย
ทำตัวปกติเดินมาพร้อมกัน
กับเอกมายังกลุ่มเพื่อนที่นั้งเฮฮากันอยู่พอมาถึงน้องเล็กก็แซวหนูกับเอก
ทันที
"เอกกับ เต่าเป็นยังไงบ้างเข้ากันได้หรือไหม" หนูได้ฟังอย่างนั้น
ไม่เข้าใจความหมายที่น้องเล็กแซงนึกว่าเขารู้ว่าเมื่อตะกี้หนูทำอะไรกับเอก
มา แต่หนูแน่ใจว่าตอนที่เอกทำกับหนูไม่มีคนอื่นแน่ๆ
หนูก็ค้อนน้องเล็กเข้าให้
น้องเล็กเขาคิดว่าหนูโกรธเขาเลยอธิบายเพิ่มว่าที่แซวนะ
หมายถึงว่าทั้งสองคนพูดคุยกันเข้าใจกันดีหรือเปล่าไม่
ได้หมายความเป็นอย่างอื่น หนูก็ตอบทุกคนอยางเสียงดังฟังชัดว่า
"ก็เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าใจกันดีสิ"
ต่อ
จากนั้น หนูก็นั่งร่วมวงกับเพื่อนๆ
โดยมีสายตาเอกคอยจับจ้องส่งสายตาเจ้าชู้มาที่หนูตลอดเวลา
และดูเหมือนว่าตอนนั้น เอกคงนึกเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรกับหนูต่อ
หนูนั่งดื่มกับเพื่อนสักพักรู้สึกว่าดึกมากแล้ว กลัวคุณพ่อเป็นห่วง และ
ออกอาการมึนมากแล้วจึงขอตัวกลับบ้านก่อน ตอนแรกเอกอาสาที่จะไปส่งตามลำพัง
แต่หนูคิดว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงขอให้เขานั่งร่วมวงกับเพื่อนต่อไป
โดยหนูให้น้องเล็กคือเพื่อนสนิท ที่เป็นเจ้าของบ้านมาส่ง
เนื่องจากบ้านหนูไกลจากสมุทรปราการพอสมควร
(อยู่แถวจรัลฯส่วนหนูเรียนอยู่โรงเรียนสตรีทีมีชื่อแห่งหนึ่งแถวพรานนก
อย่างที่พูด แนะนำในตอนต้น)
น้องเล็กซึ่งเป็นเพื่อนทีมีความสนิทมากที่สุดในห้องได้มาส่งที่บ้าน
โดยได้รบกวนพี่ชายขับรถมาส่ง และ น้องเล็กก็นั่งมา ส่งหนูด้วย
จำได้ว่าวันนั้น มาถึงบ้านราวๆ ห้าทุ่มเห็นจะได้
บ้านหนูเป็นบ้านเดี่ยวมีพื้นที่กว้างราวๆ 100 ตารางวา ปกติก็อยู่กัน 4
คนคือ คุณพ่อ, คุณแม่, หนู และ น้องชาย อายุราว 14 ปี
วันที่สอบปลายภาคช่วงนั้นคุณแม่ไปเยี่ยมคุณยายที่นครปฐม
โดยชวนน้องชายไปเป็นเพื่อนด้วย ที่บ้านจึงเหลือหนูกับคุณพ่อเพียงสองคน
คุณพ่อทำงานเป็นทหารทำงานรับผิดชอบมาก และ
ท่านค่อยข้างจะหวงลูกสาวคือหนูพอสมควร ใครจะมาข้องแวะง่ายๆ ไม่ได้ และ
ท่านก็สอนหนูให้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา บางวันคุณพ่อท่านมีงานมาก
หลังเลิกงานบางทีก็ไปสังสรรเฮฮากับเพื่อนฝูงนายทหารที่ทำงาน ฉนั้นบางวัน
คุณพ่อก็กลับบ้านดึก บางทีเลยเที่ยงคืนไปก็มี
วันนั้นหนูมาถึงบ้านไม่มีใครอยู่
เข้าใจว่าคุณพ่อคงไปทำธุระของท่านต่อยังไม่กลับ
พอหนูส่งเสียงเท่านั้นเจ้าอึ่งซึ่งเป็นหมาพันธ์โดเบอร์แมน
ที่คุณพ่อได้มาจากกรมการสัตว์ทหารบก
ก็วิ่งกระดิกหางเข้ามาทักทายหนูตามประสาของมัน
หนูเลยเข้าครัวไปหาอาหารสำเร็จรูปใส่ถาดวางไว้ให้มันที่หน้ากรง
พอเข้าถึงบ้าน
หนูยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่ใส่เมื่อตอนกลางวัน
ที่ยังเป็นชุดนักเรียนอยู่ และ
ยังไม่ทันจะได้อาบน้ำหลังจากที่ได้ส่งน้องเล็กกลับไปแล้ว
หนูก็ไปนั้งรับแอร์เย็นๆ ในห้องนั่งเล่นหนูนอนเล่นกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา
ในห้องดูเคเบิลทีวีคิดเรื่องที่เอกทำกับหนูเมื่อตอนหัวค่ำไป
สักพักไม่ทราบตนเองเผลอหลับไปนานเท่าใด
มารู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่ในห้องนอนแล้ว ตอนแรกก็งัวเงียอยู่มองไปรอบๆ
มันก็ห้องหนูเองนี่น่า แต่ที่แปลกกว่านั้นคือตอนที่หนูตื่นขึ้นมา ซึ่งราวๆ
ตีหนึ่งกว่าๆพบว่าร่างกายตนเองไม่มีเสื้อผ้า
ปิดเลยสักชิ้นจึงได้รับอากาศเย็นๆ ที่กระจายในห้องนอนจนรู้สึกหนาวเล็กน้อย
โดยรู้สึกจากไอเย็นของแอร์ที่มากระทบผิวสาวของหนู หนูหันซ้าย
ขวาไปอีกทีก็เห็นคุณพ่อ นอนอยู่ข้างๆ และกำลังงัวเงียตื่นขึ้น
หนูไม่ทราบว่าท่านกลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และ
มานอนอยู่ข้างๆหนูได้ยังไงหนูก้ม
ลงไปที่คุณพ่อได้กลิ่นเหล้าจากลมหายใจของท่านเล็กน้อย
จึงคิดว่าท่านคงดื่มมาจากข้างนอกและเข้าบ้านมาภายหลังหนูกลับมาแล้ว
หนูนั่ง
ทบทวนความจำจากสมองตนเองตั้งแต่น้องเล็กมาส่งคิดอยู่ได้สักพักคุณพ่อก็ตื่น
ท่านหันมาทางหนูและยิ้มพร้อมกับร้องถามหนู
ว่า "ตื่นแล้วหรือ เต่า"
หนูตกใจ และ
อายคุณพ่อมากที่มานั่งแก้ผ้าตัวเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าท่าน
หนูไม่ทันได้พูดอะไรมากกว่าที่กำลังคิดประติดประต่อเรื่องต่างๆ อยู่จู่ๆ
คุณพ่อท่านก็เข้ามาโอบกอดหนู และ ท่านบอกว่ากลับมาตั้งแต่ราวๆ
เที่ยงคืนแล้ววันนี้ที่สโมสรมีงานเลี้ยง พอเลิกคนอื่นไปเที่ยวตาม
ประสาผู้ชายท่านเป็นห่วงหนูเลยรีบกลับบ้านมา และ
พบหนูนอนหลับปุ๋ยอยู่ที่ห้องนั่งเล่น
ท่านเลยถอดชุดนักเรียนหนูออกและเช็ดตัวหนูให้ โดยที่หนูไม่รู้สึกตัว
ท่านคิดว่าหนูคงเพลียมากจนเผลอหลับไป
จึงไม่ได้ปลุกหลังจากนั้นคุณพ่อท่านก็อุ้มหนูเข้ามานอนในห้องโดยความที่
ท่านห่วงหนูเลยไม่กลับไปที่ ห้องก็เลยนอนอยู่ข้างๆ หนูท่านได้ถามหนูว่า
"กางเกงในของเต่าแฉะ และ เปื้อนคราบไปหมด ตอนหัวค่ำช่วยตัวเองหรือ ไม่ต้องอายหรอกบอกพ่อมา ตามตรง มันเป็นเรื่องของธรรมชาตินะ"
หนู
ไม่ได้พูดอะไรมากเพียงแต่พยักหน้า อายไม่กล้าที่จะ พูดออกมาเป็นคำพูด
(แต่จริงๆแล้วเหตุผลที่กางเกงหนูแฉะ
มาจากที่เอกทำกับหนูที่บ้านน้องเล็กต่างหาก
แต่หนูบอกพ่อไม่ได้ไม่อย่างนั้นท่านจะโมโหเป็นไฟแน่
เลยได้แต่พยักหน้าตอบรับเท่านั้น)
โดยภาพคุณพ่อที่อยู่ต่อหน้าหนูขณะนั้นมีเพียงกางเกงในตัวเดียว
ที่ปิดบังแท่งของท่านที่มองเห็นเป็นลำทมึนอยู่ใต้ร่มผ้าไว้เท่านั้น
คุณพ่อได้ ถามหนูต่ออีกว่า
"เต่าดื่มมาหรือลูกไม่ต้องโกหกพ่อนะ"
หนูไม่ตอบแต่ก็ พยักหน้าเชิงรับ ท่านก็พูดต่อว่า
"เอา
ล่ะไม่เป็นไรหรอก เต่าลูกจะได้เรียนรู้ และ
ตอนนี้ก็กำลังจะก้าวโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ทำอะไรก็อย่าประมาท ตัวเองนะ"
พอท่านพูดจบท่านก็ขยับเลื่อนตัวขึ้นจากที่นอน
มาอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนศรีษะพิงที่หัวเตียงของหนู
และขณะเดียวกันท่านได้ขยับมาใกล้หนูมากขึ้น
ท่านได้ดึงตัวหนูเข้าไปโอบกอดแสดงความอบอุ่น
เหมือนพ่อที่ไม่อยากให้ลูกหนีไปจากอ้อมอกพ่อ ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น จริงๆ
หนูรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันทีทันใด เมื่ออยู่ในอ้อมกอดคุณพ่อ
แต่ยังไม่ทันที่หนูจะเอ่ยปากพูด อะไรคุณพ่อต่อ
ท่านได้นำปากของท่าน มาประกบจูบลงที่ริมฝีปากของหนู
โดยท่านพยายามที่จะแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปากของหนู
ตอนแรกหนู
ก็ตกใจมากที่อยู่ๆ คุณพ่อท่านทำอย่างนั้น และ ตอนแรกหนูก็ขัดขืนท่าน
ไม่ยอมให้ท่านแทรกลิ้นท่านผ่านเข้ามา แต่สักพักไม่รู้มีอะไรมาดลใจหนูทำ
ให้เผลอเผยอปากนิดเดียวเท่านั้น ท่านก็แทรกลิ้นท่านเข้ามาในโพรงปากหนู
ลิ้นของท่านควานอยู่ในปากหนูนานสองนาน บางครั้งท่านก็ใช้ปากของ
ท่านดุนและดูดลิ้นของหนู เข้าออกในโพรงปากท่าน
โดยผ่านริมฝีปากทำให้หนูรู้สึกมีความสุขอย่างพิกล ตอนแรกก็ขัดขืนคุณพ่อท่าน
แต่สักพักก็ ยอมให้ท่านทำคุณพ่อได้ใช้เทคนิคต่างๆ
กับหนูทั้งดูดเล่นที่ปลายลิ้น เม้มกัดที่ริมฝีปากหนู
ท่านพยายามทำให้หนูประทับใจ หลายๆ อย่างนับว่าท่าน
ได้ใช้ปากและลิ้นของท่านสร้างความประทับใจให้หนู
ในการเริ่มต้นเป็นอย่างยิ่ง
คุณพ่อท่านได้ใช้ลิ้นกับปากของท่านทำ
กับปากหนูรวม ทั้งกับใบ หน้าของหนูได้สักพัก
ท่านก็ได้เริ่มปรับเปลี่ยนท่วงท่าซุกซนมากขึ้น
ท่านเริ่มซุกไชร้ตัวหนูในส่วนต่างๆ
โดยเริ่มต้นที่ติ่งใบหนู, ใช้ลิ้นแหย่เข้าไป ในรูหูของหนู, จูบหน้าผาก
,จูบที่ใบหน้า, ริมฝีปาก,ไซร้ลงมาตามซอกคอ,
ผ่านร่องระหว่างหน้าอกหนูที่กำลังเบ่งบาน เป็นผลส้มขนาดพอเหมาะ
,คุณพ่อทำเรื่อยลง ผ่านหน้าท้องที่แบนเรียบไม่มีไขมันของหนู,
ผ่านหน้าขาอ่อน, หลังเท้า, นิ้วเท้า, ฝ่าเท้าท่านทำทุกอย่างแทบจะกลืนกิน
หนูเข้าไปทั้งตัวให้ได้ทุกตารางนิ้ว ท่านของท่านเรื่อยมาตลอดทั่วตัวหนู
ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าวนเวียนขึ้นลง
คุณพ่อท่านทำด้วยความละเมียดละไมอย่างไม่รังเกียจ
แม้ส่วนที่อาจเรียกได้ว่าสกปรก ต่ำ และ บางคนถือกัน
ทุกอย่างได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยที่หนูตั้งตัวไม่ติด และ
มันก็ถูกปล่อยให้กระเจิงไป จนอารมณ์หนูล่องลอยไปไหนก็ไม่รู้
ในสมองตอนนั้นสับสนไปหมดคิดไป ต่างๆ นานา
ว่าที่ที่เราสองพ่อลูกกำลังทำอยู่นั้น มันผิดหรือถูก
ในความคิดอีกด้านหนึ่งก็อยากจะขัดขืนการกระทำของคุณพ่อ
แต่ในอีกความคิดหนึ่งก็อยากลองเพราะในชีวิตตั้งแต่เล็กจนโต
หนูไม่เคยเรื่องพวกนี้ เคยแต่รับข่าวสารจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว
เวลามีอารมณ์ก็แค่ช่วยตัว เองเล็กๆ น้อยๆ
ไม่เคยคิดที่จะให้ผู้ชายมาทำกับตัวเองอย่างนี้ และ
เวลาอยู่นอกบ้านหนูก็จะระมัดระวัง ตามที่คุณพ่อคุณแม่สอนเสมอ แต่ที่
หนูกับคุณพ่อทำกันอยู่คิดว่ามันคงดำเนินไปตามกฏของธรรมชาติของสัตว์โลกทั่ว
ไป ที่กำลังอยู่ในพวังที่จะสมสู่กัน
การที่หนูไม่ขัดขืนคุณพ่อที่ทำ
อย่างนี้ ท่านยิ่งทำให้ท่านได้ใจ ดูเหมือนคุณพ่อจะคิดว่าหนูตามใจท่าน
ท่านจึงทำทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก
คุณพ่อท่านทำจนหนูก็รู้สึก ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะห้ามท่าน
ในใจของหนูกับรู้สึกชอบด้วยซ้ำที่คุณพ่อ ทำให้หนูอย่างนี้
หนูอธิบายไม่ถูกด้วยซ้ำ
ว่าที่คุณพ่อท่านทำกับหนูมันคืออะไร
(มาทราบทีหลังว่ามันคือการเตรียมความพร้อม
ของการสมสู่กันคือการเล้าโลมเพื่อเพิ่มความสุข สนุกในการร่วมเพศกันนั้นเอง)
หนูไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพูดอะไรได้
ไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงของหนูมันหายไปไหนหมด ตอนนั้นหนูไม่รู้เลยซ้ำว่า
การที่คุณพ่อทำอย่างนั้น ทำให้หนูเองก็ความสุขที่สุดโดยไม่รู้ตัว
ความสุขที่เป็นความรู้สึกที่ซาบซ่าน มีความสุขอย่าง ประหลาดชนิดที่ไม่
เคยพบมาก่อนในชีวิตของหนู คุณพ่อท่านได้จูบลูบไล้ไปทั่วตัวหนูไปเรื่อย
ในขณะที่หนูกำลังเพลิดเพลินกับสิ่งที่คุณพ่อทำอยู่นั้นโดยที่หนู
ไม่ทันที่จะระวังตัว อยู่ๆ คุณพ่อท่านได้เลื่อนศรีษะของท่าน
ลงไปบริเวณจิ๋มหนูและ ท่านได้ก้มหน้าก้มตาลงไปจัดการที่จิ๋มของหนูโดยไม่
พูดพล่ามทำเพลง คุณพ่อได้ทำทุกอย่างที่บริเวณนั้นของหนู
ท่านทั้งดูดเลียเม็ดละมุด
ของหนูไม่เว้นแม้กระทั่งแคมที่ห่อหุ้มมันทั้งภายใน ภาย นอก
คุณพ่อทำได้สักพักหนูรู้สึกเสียว และ มีความสุขอย่างประหลาด
คุณพ่อทำไปอึดใหญ่ๆ จู่ๆ หนูก็รู้สึกใจหวิวๆ เหมือนฉี่จะราดออกมา จนอดใจ
ไม่อยู่หนูร้องครวญคราง แสดง ออกมาอย่างไม่รู้ตัว
"คุณพ่อค่ะเต่าเสียวฉี่จะราดแล้ว"
แม้
คุณพ่อจะได้ยินที่หนูร้องคุณพ่อก็ ยังคงก้มหน้าก้มตา
ทำอยู่ที่บริเวณจิ๋มของหนูต่อไป โดยยังไม่มีคำพูดอะไรพูดจากคุณพ่อ
ท่านได้ทำทุกอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกต่อเนื่องกันไป
ท่านแทะเล็มดูดเลียที่จิ๋มหนูสารพัดเทคนิค
ที่ท่านอยากทำสักพักผ่านไปหลายนาที
คุณพ่อท่านได้เงยศรีษะขึ้นมาและพูดกับหนู หนูได้ยินท่านพูดว่า
"เต่าน้ำของลูกออกมา เยอะจริงๆ หอมดีด้วยขอพ่ออีกนะอยากฉี่ลูกปล่อยออกมาเลย"
(ที่
จริงหนูมารู้ทีหลังว่าที่เสียวจนจะฉี่ ราดนั้นไม่ใช่ฉี่
แต่เป็นน้ำกามของหนูเอง ที่หลั่งออกมาเพราะถูกคุณพ่อโลมเล้าอย่างมีเทคนิค
จึงหลั่งออกมามากโดยที่หนูเองก็ไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้)
ตอนแรกที่เสียวมากๆ หนูก็เอามือไปผลักท่านออก
เพราะรู้สึกเสียวมากจนทนไม่ไหว
แต่ไม่รู้เป็นอยากไรอยู่ๆหนูก็กดศรีษะคุณพ่อให้ทำต่อไป และ
หนูเองเผลอร้องครางอย่างคนมี ความสุขให้คุณพ่อได้ยิน
"คุณพ่อค่ะอย่าทรมานเต่าเลย ช่วยเต่าด้วยค่ะ ซี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียวๆๆๆๆๆๆๆ "
หนูจำได้เท่านี้พอสิ้นเสียง หนูสักพักเท่านั้นแหละ สักครู่ท่านได้เลื่อนตัวขึ้นมาทาบข้างๆ ตัวหนูแล้วกระซิบที่ข้างหูหนูว่า
"พ่อ
ขอหนูนะเต่า" (ตอนแรกหนูไม่เข้าใจว่าคุณพ่อท่านขออะไรกับหนู
มารู้ทีหลังที่ท่านขอคือ ท่านต้องการ
ร่วมรักกับหนูซึ่งยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่)
แล้วท่านก็พูดต่อว่า
"เต่ารู้มั๊ยของหนูดีจริงๆ สมกับที่พ่อสู้อุตส่าห์ฟูมฟักมาตั้งแต่เด็กจนโต ลิ้นพ่อได้ชิมของดีจริงๆ เต่าชอบมั๊ย"
หนู
ไม่ตอบท่าน แต่เงียบไป ท่านกระซิบที่หูอย่างเดียวยังไม่พอ
ยังเอาลิ้นมาแยงหูหนูด้วย ซึ่งก็สร้างอารมณ์ให้หนูเพิ่มขึ้นไปอีก
ในระหว่างนั้นหนูก็รู้สึกมีแท่งอะไรสักอย่าง
มาดุนอยู่ที่ร่องแก้มก้นหนูจากข้างหลัง แต่ไม่ทันที่จะหนูรู้อะไรเป็นอะไร
คุณพ่อท่านก็แหย่แท่งนั้นเข้ามาร่องด้านหน้าของหนู โดยผ่านง่ามแก้มก้นหนูมา
แท่งที่คุณพ่อแหย่เข้ามาในร่องของหนูใหญ่มาก
โดยหนูรู้สึกจากที่มีความรู้สึกคับติ้วในรูจิ๋มของหนู
แทบจะปริแตกออกมาตอนแรกที่ท่านเริ่มสอดแท่งเข้ามาขนาดแค่หัว
ของมันผ่านมานิดเดียว เท่านั้นหนูก็เจ็บมาก เจ็บจนต้องร้องเสียงดัง
"เอา
ออกก่อนคุณพ่อเต่าเจ็บ โอย เจ็บๆๆๆๆๆๆๆ เอาออกๆๆๆๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆๆๆๆ คุณพ่อ
เอาอะไรมาแทงเต่า เอาออกๆๆๆๆๆๆๆ เจ็บๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ย คุณพ่อ เอาออกๆๆๆๆๆ"
ขณะ
เดียวกับน้ำตาของหนูก็ไหลพราก อาบแก้มลงมา
แม้หนูจะร้องเสียงดังแสดงความเจ็บปวดอย่างนั้นคุณพ่อก็พยายามที่จะดันแท่ง
เข้ามาในรูจิ๋มของหนูต่อ โดยไม่สนใจเสียงร้องของ
หนูดูเหมือนว่ายิ่งหนูร้องมากเท่าใดท่านยิ่งชอบด้วยซ้ำ
หนูเจ็บมากจนทนไม่ไหวร้องเสียงดังมาก คุณพ่อท่านเลยชะลอไว้แล้วท่านก็มาใช้
มือมาลูบไล้คลุกเคล้ากับหน้าอกหนู ที่กำลังผลิโตเท่ากับผลส้มขนาดกลางๆ
ที่กำลังชูชันมียอดเป็นสีชมพูระเรื่อท่านได้ใช้ปากเม้มดุน และ
กัดนิดๆทียอดผล ส้มเหมือนมดกัดทำให้หนูรู้สึก ลืมความเจ็บด้านล่างไปสักครู่
พร้อมกับท่านกระซิบข้างหูหนูว่า
"เต่าหนูทนอีกนิดนะลูกอีก
สักพักลูกจะชอบและมี ความสุข" และท่านก็ได้พูดกระซิบต่อว่า
"เต่าของลูกดีจริงๆ ฟิตมากอย่างนี้พ่อชอบ
เดี่ยวพ่อจะทำให้เต่ามีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์ หนูทนอีกนิดนะ"
ท่าน
พูดโอ้โลมเอาใจหนู จนหนูลืมไปว่าข้างล่างของหนู
ยังมีแท่งของท่านคารูจิ๋มของหนูอยู่ หนูเพลิดเพลินกับคำป้อยอของคุณพ่ออยู่
พอผ่านไปสักระยะ
คุณพ่อท่านก็พยายามดันแท่งของท่านเข้ามาอีกคุณพ่อท่านทำกับร่อง และ
รูจิ๋มของหนู จนกระทั่งแท่งของท่านเลื้อยสอดเข้ามาในรูจิ๋ม
ของหนูผ่านร่องแก้มก้นด้านหลังของหนู จนหมดความยาวของมัน
หนูรู้สึกว่ามันแน่นหน้าท้องไปหมดเหลียวหน้าลงไปดูที่จิ๋ม และ หน้าท้องน้อย
ของตัวเองบวมเป่งขึ้นมาจนเห็นได้ชัด
(มันจะไม่แน่นและคับจนเจ็บได้อย่างไรค่ะ แท่งของคุณพ่อหนูภายหลัง
มาวัดดูยาวเกือบแปดนิ้ว แถมตัวอ้วนท้วนอุดมสมบูรณ์ด้วย)
เมื่อแท่งของคุณพ่อเข้ามาเต็มจนคับรูจิ๋มของหนูแล้ว
หนูรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรมาทิ่มเข้าที่รูจิ๋มของหนู จนทะลุตับไตใส้พุง
จุกไปถึงคอหอยทีเดียว คุณพอท่านแช่แท่งไว้สักพักพร้อมกับ
สอดแขนของท่านลอดผ่านใต้รักแร้หนู มาคลึงที่หน้าอกหนูท่านก็กระซิบว่า
"เต่าเจ็บ มากไหม"
หนู
ไม่ได้ตอบท่านแต่พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเจ็บ
สักพักท่านก็เริ่มเคลื่อนแท่งของท่าน เข้าออกที่ร่องหนูอย่างช้าๆ
เนิบนาบนิ่มนวล มีจังหวะหนูรู้สึกคันๆ เสียวๆ เจ็บๆ ในรูจิ๋มใน
เวลาที่ท่านเคลื่อนแท่งนั้นเข้าออก
ในขณะเดียวกับที่ท่านได้เริ่มเคลื่อนแท่งเข้าออกที่รูจิ๋มของหนู
มือที่ท่านได้โอบมาด้านหลังหนูผ่านใต้รักแร้หนูมา
ได้มาป้วนเปี้ยนคลึงเคล้าอยู่ที่หน้าอกหนู
ในระหว่างที่ท่านเคลื่อนตัวเข้าออกในรูจิ๋มของหนูน้ำตา
ของหนูก็ยังไหลออกมาเรื่อยๆ เพราะยังเจ็บอยู่
แต่คุณพ่อท่านก็ให้หนูเอียงหน้าเอี้ยวมาหาท่านนิดหนึ่ง
แล้วท่านก็ใช้ลิ้นของท่านเลียไปทั่วใบหน้าหนู
ดูดเลียทุกอย่างที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าหนู ไปจนหมดเหมือนเป็นการเช็ดน้ำตาหนู
ที่ไหลพรากออกมา พอคุณพ่อท่านทำไปได้สักพักหนูก็รู้สึกใจ จะหวิวๆ
อีกครั้งหนึ่งเหมือนกับครั้งแรก หนูรู้สึกว่าตัวเองใจจะขาดหวิวๆ
เหมือนกำลังล่องลอยในท้องฟ้าอย่างไม่มีขอบเขตหนูได้ส่งเสียง ร้อง
ออกไปอย่างไม่รู้ตัวว่า
"คุณพ่อเต่าใจจะขาดหายใจไม่ออก ช่วยเต่าด้วยช่วยเต่าด้วย ช่วยๆๆๆๆๆๆๆ ด้วยๆๆๆๆๆๆๆ ซี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ"
แม้หนูจะรู้สึกใจจะขาด แต่กลับเร่งเร้าบอกให้คุณพ่อทำเร็วๆ
"คุณพ่อค่ะทำเร็วๆ แรงๆ ค่ะอย่าปรานีเต่านะค่ะช่วยเต่าด้วย"
หนู
ไม่รู้ว่าหนูพูดคำพูดนี้ ออกมาได้อย่างไร พอสิ้นคำพูดหนูที่ครางออกมา
คุณพ่อก็กระแทกรูจิ๋มของหนูอย่างไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบ เนื้อ
"พรึบๆๆๆๆๆ"
คุณ
พ่อท่านก็เลื่อนแท่งเข้าออกในรูของหนูสักพัก ท่านก็เปลี่ยนท่าในการทำ
โดยท่านจัดให้หนูหมอบคุดคู้เหมือน สุนัขตัวเมียแล้วท่านก็คุกเข่าบนที่นอน
ทำจากด้านหลังของหนู โดยท่านได้สอดแท่งผ่านร่องแก้มก้นมา
(โดยหนูมาทราบทีหลังว่าเขา เรียกกันว่า ท่าหมาเอากัน หรือ DOGGIE STYLE)
คุณพ่อท่านทำไปได้สักครู่ใหญ่ๆ
ท่านก็นอนลงไปทางด้านหลัง ให้หนูนั่งคร่อมท่าน
แต่ท่านจัดให้หนูหันหน้าไปทางปลายเท้าของท่าน พอหนูตั้งลำนั่งได้ตำแหน่ง
หนูก็ก็นั่งอยู่เฉยๆ
จนคุณพ่อบอกให้หนูโยกตัวบนตัวท่านเหมือนกับการเป็นจ็อกกี้ขี่ม้า
ตอนแรกหนูทำไม่เป็น ท่านก็สอนให้สักพักหนู
ก็ทำได้อย่างคล่องแคล่วในระหว่างนี้ท่านก็ยังเอื้อมมือมา
สัมผัสส่วนหน้าอกของหนูไปพร้อมกัน
หนูทำไปท่านก็สวนกลับขึ้นมาเป็นจังหวะที่สอด คล้องกันมันสร้างความรู้สึก
และ ให้ความรู้สึกที่มันยังไงก็บอกไม่ถูก
สักพักท่านก็ดึงให้หนูหันหน้ามาทางท่าน
โดยที่แท่งของท่านยังคาที่รูจิ๋มของหนูอยู่ และมือท่านก็ไม่ได้ปล่อยวาง
จากอกของหนูเลย
หนูโยกตัวทำตัวเป็นจ็อกกี้ได้สักพัก
คุณพ่อท่านก็พรวดพลาดลุกขึ้นนั่ง
โดยไม่ได้บอกหนูก่อนแล้วท่านสอดแขนผ่านใต้รักแร้หนูไปโอบลูบไล้ทางด้านหลัง
หนู รวมทั้งท่านได้ไปคลึงผ่านไปทางประตูหลัง
ของหนูไปด้วยในตัวในระหว่างที่ท่านเคลื่อนแท่งเข้า
ออกที่รูจิ๋มด้านหน้าของหนูคุณพ่อ
ได้ทำให้หนูสำลักความสุขที่เป็นธรรมชาติอย่างท้วมท้น
เมื่อผ่านไปสักครู่ท่านได้เลื่อนมือขึ้นมาโอบ และ
กดลงที่ไหล่ในลักษณะการล็อกหนูไว้กับท่าน
คุณพ่อท่านทำยังกับหนูจะหนีหายไปอย่างนั้นแหละค่ะ
แต่การที่ท่านทำในลักษณะดังกล่าว
รู้สึกว่าทำให้ส่วนล่างของหนูกับของคุณพ่อบดเบียด และ
มีความกระชับกันมากขึ้นค่ะ
ในท่าที่ท่านได้ทำกับหนูในท่านี้ทำให้ระดับของหน้าอกหนูตรงกับหน้าท่านพอดี
ท่านก็เลยซุกใบหน้าท่านมาคลุกเข้ากับหน้าอกน้อยๆ
ของหนูที่กำลังโตวันโตคืนพร้อมกับดูดดุนเม็ดบนยอดอกหนู ไปใน
เวลาเดียวกับที่ข้างล่างของท่าน กำลังเคลื่อนที่เข้าออกในร่องหนูอยู่
หนูรู้สึกว่ามีน้ำหล่อลื่นทั้งของหนูและของคุณพ่อ
ออกมามากจึงทำให้หนูรู้สึก ไม่เจ็บมากนัก
ในขณะเวลานั้นอาจจะไม่มีความรู้สึกของความเป็นพ่อลูกกันเหลืออยู่ด้วยซ้ำ
อารมณ์ความต้องการของคุณพ่อ และ
ของหนูที่คุณพ่อกระตุ้นให้มันเกิดมันกลายเป็นสิ่งที่หนูต้องการให้มันเกิด
และ ให้สิ้นสุดลงไป
เพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ให้จางหายไปความต้องการทั้งคุณพ่อและหนู
(อาจจะเรียกว่าอารมณ์ดำกฤษณาตามศัพท์เขาก็ได้)
จึงทำให้เราสองคนพ่อลูกเลือกที่จะ ปฏิบัติอย่างนี้
ก็คิดเสียว่ามันก็คือการที่สัตว์โลกทั่วไปสมสู่กันตามธรรมชาติ
เวลานั้นในห้องนั้นไม่มีการพูดจาอะไรทั้งนั้น
ทุกอย่างดำเนินไปตามกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ ไม่มีแม้เสียงพูดคุยกัน
ระหว่างหนูกับคุณพ่อ คงมีแต่เสียงร้องครวญครางโอดโอย
ประสานกันทั้งพ่อและลูกเหมือนคนถูกทรมาน แต่ไม่ใช่การทรมาน
หากเป็นการร้องครวญครางโอดโอยอย่างมีความสุขต่างหาก
และมันเป็นอารมณ์ที่ไม่สามารถจะมีอะไรมาหยุดมันได้
จะต้องให้มันสิ้นสุดไปตามทางของมัน
เสียงเนื้อกระทบเนี้อ
ระหว่างผิวสาววัยแรกรุ่นอย่างหนู
กับผิวชายร่างกายกำยำเลือดนักรบชายชาตทหารอย่างคุณพ่อ
ดังเป็นจังหวะสลับกับเสียงร้องครวญคราง ของหนูและเสียงดังของคุณพ่อ
"ซี๊ด ซี๊ดๆๆๆๆๆ แรงอีกค่ะคุณพ่อ"
ดี
ที่บ้านหนูติดแอร์ตลอดทุกห้อง จึงทำให้เสียงไม่เล็ดลอด
ออกไปให้ถึงหูชาวบ้าน คุณพ่อท่านทำได้สักพักท่านก็ลุกขึ้น
โดยอุ้มหนูขึ้นไปด้วย โดยที่ท่านยังคงเสียบแท่งคารูจิ๋มหนูไว้
แล้วท่านก็วางหนูลงบนที่นอนโดยที่ยัง เสียบแท่งคารูจิ๋มของหนูไว้อย่างเดิม
จากนั้นท่านได้ใช้แขนที่แข็งแรงของท่าน
ดันหน้าขาหนูขึ้นจนหัวเข่าของหนูแทบจะชนหน้าอกของหนูเอง
คุณพ่อท่านได้จัดปลายขาของ
หนูไปพลาดที่ไหล่ท่าน แล้วท่านก็เริ่มเคลื่อนแท่งในร่องของหนูอีกครั้งหนึ่ง
ในลักษณะนี้ท่านได้กระแทกแท่งของ ท่านลงมาได้ลึกมาก ในรูจิ๋มของหนูจริงๆ
เพราะหนูทราบจากความรู้สึกภายในของตนเอง
ที่หัวมดลูกของหนูเองคุณพ่อกระแทกแท่งใส่หนูใน ลักษณะนี้ได้สักพัก
ท่านก็จัดขาหนูลงจากไหล่ท่าน และ
ให้หนูแยกขาออกให้กว้างมากที่สุดจนเกือบจะเป็นเส้นตรง
โดยตอนแรกท่านได้ใช้มือทั้งสองข้างจับที่ข้อเท้าหนู
และฉีกแยกออกจากกันให้กว้างมากที่สุด เพื่อที่ท่านจะได้สอดใส่ และ
เคลื่อนแท่งของท่านในรูจิ๋มของหนูอย่างลึกที่สุด
เพื่อให้มีความสนุกในการปฏิบัติกามกิจทั้งสองฝ่าย
หลังจากนั้นท่านได้ปล่อยมือจากข้อเท้าของหนู และ
ได้ก้มตัวลงมาทาบหนูโดยที่แท่งยังคารูจิ๋มของหนูอยู่
หลังจากนั้นคุณ
พ่อท่านได้ละมือจากส่วนอื่นบนร่างกายหนู มาสอดผ่านใต้รักแร้หนู
มาล็อกที่หัวไหล่ของหนูอย่างแน่นอีกครั้ง
หนึ่งโดยจังหวะนี้หัวหนูได้เสือกไปชนกับหัวเตียงดังโครม
แต่คุณพ่อก็ยังตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ต่อ ท่านกดไหล่หนูไว้ให้แน่น และ
ท่านก็ทำหนูต่อไปอย่างมีจังหวะจะโคน ปากท่านก็คลุกเคล้าซุกไซร้ และ
ดูดดุนจูบที่
Gambar memek Indo - Koleksi Foto Cewek Abg